เตือนภัย!!อาการนอนกรนอันตรายหรือไม่ ? สาเหตุและวิธีป้องกัน

นอนกรน
การนอนหลับเป็นเรื่องที่สำคัญต่อสุขภาพของเรา ในกรณีที่หลับไม่หลับ หรือกรน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาการกรนเป็นอาการที่ทำให้คนนอนหลับไม่ดีและไม่มีความสดใส นั่นสามารถเป็นสัญญาณของโรคอันตรายได้หรือไม่ แต่ก่อนที่เราจะไปสู่สาเหตุ ของการนอนกรน เราต้องทำความเข้าใจกับอาการกรนก่อนด้วยเช่นกัน

นอนกรนคืออะไรและมีสาเหตุอะไรบ้าง?

อาการกรน หมายถึงการตื่นขึ้นมาในช่วงกลางคืนโดยไม่ตระหนักตัวว่าเรากำลังตื่นอยู่ หรือตื่นโดยไม่มีเหตุการณ์ที่ชัดเจน โดยทั่วไปแล้ว เกิดจากความผิดปกติของประสาทที่ควบคุมการนอนหลับ

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกรนอาจมีหลายประการ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์หรือยาบ้า โรคอายุรกรรม เครื่องดื่มที่มีกาแฟหรือน้ำชาเย็น ซึ่งเป็นสารกระตุ้นที่ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นของระบบประสาท และโรคหลายชนิดที่ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น โรคการสมาธิสั้น โรคอาการเคลื่อนไหวได้เอง โรคโปลิโอเซสไตรประสาทและโรคพาร์กินสัน

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

การกรนเป็นอาการที่สามารถกระทบต่อสุขภาพทั้งทางกายและทางจิตใจของคนที่มีปัญหาอาการกรนได้ ในทางกาย คุณอาจเจอกับอาการอ่อนเพลีย ความง่วงซึมเศร้า สูญเสียความจำ การเคลื่อนไหวมีปัญหา และการเจ็บหน้าท้อง เบื้องต้น ส่วนทางจิตใจ คุณอาจเจอกับอาการวิตกกังวล ความโกรธง่าย สมาธิลดลง และอารมณ์ไม่สมดุล เมื่อต้องพบกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

ดังนั้น คุณจึงควรระวังและคอยตรวจสอบถึงคุณภาพของการนอนหลับของคุณด้วยตนเอง เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบด้านสุขภาพ

ความรุนแรงและอันตราย สามารถแบ่งได้ 3 ระดับ 

สามารถแบ่งระดับความรุนแรงและอันตรายได้ดังนี้:

ระดับ 1: รุนแรงน้อยและไม่อันตราย

  • รุนแรงน้อยอาจมีการเคลื่อนไหวน้อยและมักเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว
  • ไม่ค่อยมีผลกระทบต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในชีวิตประจำวัน

ระดับ 2: รุนแรงปานกลางและอาจมีความเสี่ยง

  • รุนแรงปานกลางอาจมีการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น และเกิดเป็นระยะเวลานานกว่าระดับ 1
  • อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเสี่ยงในสุขภาพ เช่น ความเครียด ภาวะซึมเศร้า และอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนหลับ

ระดับ 3: รุนแรงมากและอันตราย

  • รุนแรงมากอาจมีการเคลื่อนไหวรุนแรง และเกิดเป็นความถี่ตลอดเวลา
  • อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการเสี่ยงต่อสุขภาพร่างกาย เช่น ภาวะหัวใจวาย หรือมีผลกระทบต่อภาวะสมองเสื่อม

ควรระมัดระวังและให้ความสำคัญกับอาการกรนที่มีความรุนแรงและเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน หากมีอาการที่น่าเชื่อถือว่าอาจเป็นอันตราย ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำในการรักษาและการจัดการสภาพนอนหลับเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การวินิจฉัย

การวินิจฉัยอาการกรนนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และไม่มีการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการที่ชัดเจน เพียงแค่หากคุณมีอาการบ่อยๆ หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค แพทย์อาจจะให้คุณทำการตรวจการนอนหลับด้วยตนเอง หรือส่งคุณไปทำการตรวจเพื่อวินิจฉัยในโรงพยาบาล

การวินิจฉัยอาการกรนได้แก่

  • การตรวจสอบประวัติเฉพาะโรคและประวัติการนอนหลับ
  • การตรวจสอบอาการและภาวะของคุณระหว่างการนอน
  • การตรวจสอบการกระตุ้นทางสมองในระหว่างการนอน
  • การตรวจสอบหมอนหรือเครื่องนอนที่ใช้

ในบางกรณี แพทย์อาจจะสั่งให้คุณทำการตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุของการกรนมากยิ่งขึ้น อาจจะต้องไปทำการตรวจด้วยเครื่องมือช่วยเหลือการวินิจฉัยอย่าง PSG (polysomnography) หรือเครื่องมือช่วยวินิจฉัยอื่นๆ อีกด้วย

วิธีป้องกัน

อาการกรนเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้โดยการปรับพฤติกรรมการนอนหลับ เราจะแนะนำวิธีป้องกันกรนเพื่อให้คุณมีการนอนหลับที่สบายมากขึ้นและลดโอกาสในการเกิดอาการกรน

1. ปรับที่นอนและหมอน

การเลือกที่นอนและหมอนที่เหมาะสมสำหรับร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะมันช่วยให้ร่างกายมีการสนับสนุนที่ดีขึ้นและไม่เกิดการแข็งตัวของกล้ามเนื้อที่ไม่จำเป็น ในการเลือกที่นอนและหมอนแนะนำว่าควรเลือกให้เหมาะสมกับพวกคุณเอง

2. หลีกเลี่ยงสัตว์เลี้ยง

หากคุณมีภูมิคุ้มกันต่ำที่สุด การหลีกเลี่ยงสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งที่ควรทำ เนื่องจากสัตว์เหล่านี้อาจทำให้คุณเกิดอาการแพ้จนเกิดอาการกรนได้

3. เปิดห้องพักให้เย็น

การนอนในห้องที่อุณหภูมิสูงอาจทำให้คุณมีความร้อนและเหงื่อออกมากขึ้น ทำให้คุณสัมผัสได้ไม่สบาย เราแนะนำให้ปรับอุณหภูมิในห้องให้เย็นลง และเปิดเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมให้เข้าถึงแล้วระบายอากาศ

4. หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา

การดื่มสุราหรือสารระงับประสาทอื่นๆ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกรน เพราะสารต่างๆเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงระบบประสาทได้ หากคุณมีปัญหาควบคุมตัวเองไม่ได้ คุณควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุรา

5. การใช้เครื่องเพิ่มความชื้น

การเพิ่มความชื้นในอากาศด้วยเครื่องเพิ่มความชื้นอาจช่วยลดอาการหายใจอักเสบหรือไอแห้ง ทำให้การหายใจเป็นไปอย่างสะดวกสบาย และลดความรู้สึกแห้งและอักเสบในทางคอและจมูก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้เกิดอาการกรน

บทความน่าสนใจเกี่ยวกับเครื่องเพิ่มความชื้น : เครื่องเพิ่มความชื้น ช่วยอะไร? ข้อดีและข้อเสียที่ควรรู้ 2023

วิธีการรักษาอาการกรน

เมื่อคุณได้รับการวินิจฉัยว่าคุณมีอาการนอนกรนแล้ว หากคุณไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาการกรนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคุณได้ ดังนั้นการรักษาเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยปกติแล้วอาจจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับ เช่น การลดการบริโภคแอลกอฮอล์ การออกกำลังกาย และการลดความเครียด อีกทั้งยังมีการใช้ยาเพื่อช่วยลดอาการกรนได้อีกด้วย

ยาที่ใช้ในการรักษากรนมีหลากหลายประเภท อาทิ ยากลุ่มเบนโซดิอาซีปีน ยากลุ่มบาร์บิติวริเจอร์ และยากลุ่มอื่น ๆ อีกมากมาย การใช้ยาเพื่อรักษาอาการกรนควรได้รับการแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ ซึ่งยาบางชนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่าง ดังนั้น คุณควรระบุว่าคุณมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ หรือโรคประจำตัว ก่อนที่จะได้รับการจัดแผนการรักษา

สามารถหายเองได้หรือไม่?

สามารถรักษาและหายได้ในบางกรณี โดยสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการนอนหลับ คุณอาจจะลองทำตามวิธีการต่อไปนี้เพื่อช่วยลดอาการ:

  1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการนอนหลับ: คุณสามารถลองปรับวิธีการนอนหลับ เช่น นอนหลังไม่กินอาหารก่อนนอนหรือเลิกสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการได้
  2. การออกกำลังกาย: ออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีในการช่วยลดความเครียดและเป็นประโยชน์ต่อการนอนหลับอย่างมาก การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดอาการกรน
  3. การจัดการความเครียด: ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่ง การใช้เทคนิคผ่อนคลายอย่างการฝึกสมาธิหรือวิธีการผ่อนคลายต่างๆ อาจช่วยลดความเครียดและอาการกรนได้
  4. การเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับ: ลองเปลี่ยนวิธีในการนอนหลับ เช่น การใช้หมอนที่เหมาะสม หรือการเปลี่ยนตำแหน่งการนอน อาจช่วยให้คุณนอนหลับได้สบายมากขึ้นและลดอาการกรน

แต่ในบางกรณี อาการนอนกรนอาจเป็นเรื่องราวที่น่าเป็นห่วงมากขึ้น โดยคุณควรรีบไปพบแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำและการรักษา เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพของคุณในอนาคต

FAQs : คำถามที่พบบ่อย

อาการนอนกรนเกิดขึ้นจากอะไร?

เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และสภาพทางกายภาพ เช่น ความอึดอัด หรือมีเสียงดังรบกวน

เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่?

สามารถเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเหนื่อย ง่วงซึม หรือ ภาวะซึมเศร้า แต่ถ้าเป็นเพียงเรื่องหนึ่ง-สองครั้ง จะไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพมากนัก

สุราเป็นสาเหตุของอาการกรนหรือไม่?

การดื่มสุรามากเกินไปสามารถทำให้เกิดอาการกรนได้ ซึ่งอาจเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาใกล้กับการนอน

ข้อมูลอ้างอิง : https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/15580-snoring

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ Privacy Policy และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองที่ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save